เลือกซื้อของขวัญ วิธีง่ายๆ ที่ผู้ให้ก็แฮปปี้ ขั้นแรกของการเริ่มต้นซื้อของขวัญ คือการจดบันทึกรายชื่อและจำนวนของขวัญ โดยควรแบ่งตามกลุ่มอย่างเป็นหมวดหมู่ เพราะแต่ละหมวดหมู่ต้องการของขวัญที่แตกต่างกันไป โดยอาจแยกตามความสนิท อายุ เพศ เชื้อชาติ ตำแหน่งหน้าที่การงาน วิถีชีวิต และรสนิยมส่วนตัว เป็นต้น ทั้งนี้ควรกำหนดเพดานของงบประมาณในภาพรวม เพื่อคำนวณงบประมาณในการหาซื้อของสำหรับผู้คนในแต่ละหมวดหมู่
• ของขวัญทั่วไปสำหรับเด็ก เช่น เกมที่เหมาะสมกับพัฒนาการของวัย ตุ๊กตา เครื่องเขียน เสื้อผ้าและขนม ทั้งนี้ควรสอบถามคุณพ่อคุณแม่ก่อนว่าเด็กมีอาการแพ้อาหารประเภทใดหรือไม่
• ของขวัญทั่วไปสำหรับวัยรุ่น เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ หนังสือ กระเป๋า รองเท้า ขนม ของแต่งห้องที่สมวัย อุปกรณ์วาดเขียน หูฟัง กล้องถ่ายภาพ เครื่องดนตรีหรือข้าวของที่เกี่ยวข้องกับงานอดิเรกหรือความสามารถพิเศษต่างๆ
• ของขวัญสำหรับหญิงสาว เช่น เครื่องประดับ เครื่องครัว ของใช้ในบ้าน จานชาม ข้าวของเพื่อสุขภาพ อุปกรณ์ทำงานฝีมือหรืองานอดิเรก ส่วนสำหรับชายหนุ่มอาจเหมาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์แกดเจ็ต อุปกรณ์จักรยาน เครื่องมือช่าง หรือเครื่องทำกาแฟ ทั้งนี้วิถีชีวิตของผู้รับเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการเลือกข้าวของ
• วิธีการง่ายๆ เหมาะกับยุคสมัยปัจจุบันที่ช่วยให้การเลือกของขวัญถูกใจผู้รับ คือการศึกษา ความชอบ รสนิยม และวิถีชีวิตของผู้รับจากโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter หรือ Pinterest หรืออย่างน้อยก็อาจจะช่วยให้เราไม่ซื้อของที่ซ้ำกับของที่ผู้รับมีอยู่แล้ว
• อีกวิธีหนึ่งคือ การสอบถามจากเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัว เพราะคนเหล่านั้นย่อมรู้ว่าผู้รับมีความชื่นชอบสิ่งใด หรือมีแผนจะซื้ออะไรอยู่แล้วหรือไม่ หรือเพิ่งซื้ออะไรมา ผู้ให้จะได้เฟ้นหาสิ่งที่เข้ากันได้กับข้าวของนั้นๆ
• หากคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะซื้อของขวัญอะไรดีการซื้อประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจให้ผู้รับก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ หากมีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษ ควรเลือกกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้ เช่น บัตรคอนเสิร์ต ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วนิทรรศการศิลปะ หรือห้องพักในโรงแรมที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ เป็นต้น การมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้นั้นน่าตื่นเต้นและน่าจดจำมากกว่าการมอบสิ่งของให้
• สมัครสมาชิกรายเดือนหรือรายปีของการให้บริการที่ผู้รับน่าจะชื่นชอบ เช่น สมัครสมาชิกชุดผักออร์แกนิก หรือเซตอาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงสมาชิกรายการทางดิจิทัลต่างๆ เป็นต้น
• ข้าวของทำมือเป็นของขวัญที่มีคุณค่าทางจิตใจและไม่เหมือนใคร และหากจัดการอย่างเป็นระบบเราก็สามารถผลิตเองได้เป็นจำนวนมากตามที่ต้องการ เช่น ขนม ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ เยลลี่ แยม ลูกกวาด หรือการซื้อเครื่องเขียนเหมาโหลมาจัดชุด แล้วตกแต่งหีบห่อให้น่ารักน่าเอ็นดู
• เพิ่มความพิเศษของการมอบของขวัญด้วยการเน้นที่กระบวนการของการมอบ เช่น การบอกใบ้ตำแหน่งของของขวัญให้ผู้รับค่อยๆ เดินทางไปหาข้าวของด้วยใจระทึก หรือการซ่อนของขวัญในตำแหน่งที่น่าประทับใจหรือน่าประหลาดใจ
• หลักการทั่วไปของการเลือกซื้อของขวัญนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นข้าวของราคาแพง หากแต่ควรเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความพิเศษ หากไม่มีงบประมาณมากนัก อาจเลือกซื้อข้าวของเบ็ดเตล็ดชิ้นเล็กชิ้นน้อยหากแต่เป็นของดีมีคุณภาพพิเศษ ในทางกลับกัน ไม่ควรเลือกซื้อข้าวของที่มีราคาแพงจนเกินไป เพราะผู้รับอาจรู้สึกเกรงใจหากของที่มอบกลับคืนมีมูลค่าไม่เท่าเทียมกัน
• ควรหลีกเลี่ยงข้าวของที่อาจเป็นภาระให้กับผู้รับหรือครอบครัวของผู้รับ เช่น การมอบสัตว์เลี้ยง ที่แม้จะน่ารักตอนยังเล็กอยู่ แต่ในระยะยาวคือภาระการเลี้ยงดูตลอดไป หัวใจสำคัญคือ สิ่งของที่มอบให้ ไม่ควรต้องการการดูแลรักษาสูงหรือยาวนานจนเกินไป