จะเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยที่ดีได้อย่างไร? การเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหยในประเทศไทยนั้น ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เนื่องจากความเข้าใจของลูกค้าเกี่ยวกับน้ำมันหอมระเหยยังสับสนและคลาดเคลื่อนอยู่มาก น้ำมันหอมระเหยในประเทศไทยมีอยู่หลายเกรด และมีทั้งของแท้ ไม่แท้ มีทั้งบริสุทธิ์100% และชนิดที่ผสมเจือจาง แล้ว ขึ้นแต่ความรับผิดชอบของผู้จำหน่ายแต่ละรายไป น้ำมันหอมที่ขายในตลาดประเทศไทยพอแบ่งได้เป็นประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
1.น้ำมันหอมระเหยแท้ ชนิดบริสุทธิ์ 100 % (ชนิดที่ AromaHub จำหน่าย)
2.น้ำมันหอมระเหยแท้ ชนิดเจือจางด้วย น้ำมัน หรือสารเคมีอย่างอื่นๆ
3.น้ำหอมสังเคราะห์เลียนกลิ่นน้ำมันหอมระเหย
1.น้ำมันหอมระเหยแท้ ชนิดบริสุทธิ์ 100 %
เป็นน้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากพืชธรรมชาติ และเป็นชนิดบริสุทธิ์ 100 % ซึ่งเป็นชนิดที่ AromaHub จำหน่าย น้ำมันหอมระเหยแท้ส่วนมากจะมีราคาที่แตกต่างกันมากในแต่ละชนิดของน้ำมันหอมระเหย ขึ้นกับว่าเราจะนำส่วนไหนของพืชมาสกัด และส่วนนั้นๆของพืชจะมี น้ำมันหอมระเหยเป็นส่วนประกอบมากน้อยเพียงใด เช่น น้ำมันหอมระเหยตะไคร้หอม ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำมันที่มีราคาย่อมเยาว์ที่สุด สกัดมาจาก ใบและต้นของตะไคร้หอม ซึ่งปลูกและหาได้ง่าย และมีราคาถูก ราคาน้ำมันตะไคร้หอม 1 กิโลกรัมจึงอยู่ในราคาที่ไม่เกินหลัก 2-3 พันบาท ขณะที่น้ำมันหอมระเหยกุหลาบ ต้องใช้กลีบดอกกุหลาบตากแห้ง มากกว่า 1,000 กิโลกรัม มาสกัดเพื่อให้ได้น้ำมันหอมระเหยกุหลาบ 1 กิโลกรัม ราคาของน้ำมันหอมระเหยกุหลาบแท้ชนิด 100 % จะมีราคาอยู่ในหลักแสนบาทขึ้นไปต่อน้ำมันหอมระเหยกุหลาบ 1 กิโลกรัม
ส่วนประกอบของพืชแต่ละส่วนจะให้น้ำมันหอมระเหยไม่เท่ากัน รวมทั้งพืชแต่ละชนิดก็ให้น้ำมันหอมระเหยไม่เท่ากันด้วย จากกการศึกษาในต่างประเทศพบว่าโดยน้ำหนักแล้ว พืชจะให้น้ำมันหอมระเหยตั้งแต่ 0.005 % จนถึง 10 % ทั้งนี้ขึ้นกับชนิดของพืชและส่วนของพืชที่เรานำเอามาสกัดน้ำมันหอมระเหย เช่น
-น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส จำนวน 450 กรัม สกัดมาจาก ใบและกิ่งที่ตากแห้งแล้วที่มีน้ำหนักประมาณ 22.7 กิโลกรัม
-น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ จำนวน 450 กรัม สกัดมาจาก ดอกลาเวนเดอร์ ที่ตากแห้งแล้วที่มีน้ำหนักประมาณ 68 กิโลกรัม
-น้ำมันหอมระเหยกุหลาบ จำนวน 450 กรัม สกัดมาจาก ดอกกุหลาบ ที่ตากแห้งแล้วที่มีน้ำหนักประมาณ 907 กิโลกรัม
2.น้ำมันหอมระเหยแท้ ชนิดเจือจางด้วย น้ำมัน หรือสารเคมีอย่างอื่นๆ
เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยบางชนิดมีราคาสูงมาก จึงมีผู้ขายไม่มีจริยธรรม บางรายผสมน้ำมันพืชพื้นฐาน (Base Oil, Carrier Oil เช่น อัลมอนด์ โจโจ้บา) ที่มีราคาถูกกว่ามากกับน้ำมันหอมระเหยเพื่อให้ได้ปริมาณมากขึ้น โดยไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบ การผสมน้ำมันพื้นฐานกับนำมันหอมระเหยนั้นเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่ผู้ค้าต้องแจ้งลูกค้าหรือระบุอย่างชัดเจนที่ข้างขวด ผู้ขายบางรายยังผสมน้ำมันหอมระเหยแท้กับน้ำหอมสังเคราะห์เลียนกลิ่นเข้าไปด้วยเพื่อลดต้นทุน ผู้ขายบางรายก็ผสมสารเคมีเข้าไปในน้ำมันหอมระเหยเพื่อลดต้นทุนของสินค้า
ไม่เพียงแต่น้ำมันหอมระเหยทีถูกผสมมักจะเป็นตัวที่แพง เช่น น้ำมันหอมระเหยกุหลาบ น้ำมันหอมระเหยมะลิ น้ำมันหอมระเหยดอกส้ม น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ เป็นต้น ในปัจจุบันพบว่าน้ำมันผสมในตลาดบ้านเรามีเป็นจำนวนมาก แม้จะเป็นน้ำมันหอมระเหยที่ราคาไม่สูงมากก็เป็นชนิดผสม ไม่ใช่ชนิด บริสุทธิ์100%
3.น้ำหอมสังเคราะห์เลียนกลิ่นน้ำมันหอมระเหย
ผู้ขายจำนวนมากในประเทศไทยนำน้ำหอมสังเคราะห์เลียนกลิ่นน้ำมันหอมระเหย มาบรรจุขวดวางขาย แล้วบอกกับลูกค้าว่าเป็นน้ำมันหอมระเหยแท้ เรามักจะสังเกตได้ง่าย คือ ราคาของน้ำมันหอมระเหยแท้แต่ละชนิดจะแตกต่างกันมาก เช่น น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส 100% ขนาด 30 มล.อาจอยู่ทีหลัก ร้อยถึงไม่กี่ร้อยบาท ขณะที น้ำมันหอมระเหยกุหลาบแท้ 100 % ขนาด 30 มล.อาจจะอยู่ที่หลักหลายพันบาท แต่ถ้าเราพบว่าราคาน้ำมันหอมระเหยที่ผู้ขายจำหน่ายนั้น มีราคาใกล้เคียงกันทุกกลิ่น นั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าน่าจะเป็นน้ำหอมกลิ่นสังเคราะห์ ไม่ใช่น้ำมันหอมระเหยแท้อย่างแน่นอน น้ำมันหอมระเหยแท้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง อารมณ์ ฮอร์โมนในร่างกายและมีผลในด้านการรักษา ขณะทีน้ำหอมสังเคราะห์ให้เพียงกลิ่นหอมแก่เราเท่านั้น